แบล็คแจ็คออนไลน์เป็นเกมที่นิยมเล่นกันมาก เพราะเป็นเกมที่สามารถใช้ไหวพริบต่าง ๆ ในทุกอย่าง คุณจะต้องบวกเลขตลอด จะต้องคำนวณว่า คุณจะเรียกไพ่ จะหยุดไพ่ หรือคุณจะแยกไพ่ ซึ่งจะสนุกตรงที่จะมีเวลาบังคับให้คุณคิดไม่นานมาก ถ้าคุณใช้เวลานานเกินไประบบจะสั่งให้คุณอยู่โดยอัตโนมัติไม่สามารถเรียกไพ่จากกองกลางได้ นี่จึงทำให้ไพ่แบล็คแจ็คได้รับความนิยมเป็นอย่างมากด้วย เพราะจะต้องคอยลุ้นและคอยนับเลขไปด้วยตลอดและใช้เวลาในการตัดสินใจตลอดไม่นานนัก การวางเดิมพันของไพ่แบล็คแจ็คนั้น มันมีการวางเดิมพันข้างเคียง(Bet Side) ได้อีกด้วย มันจึงทำไห้มีรูปแบบการวางเดิมพันที่ทำให้สามารถเลือกที่จะทำการวางเดิมพันได้มากมาย สามารถเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ที่ทำเงินได้จริงได้ที่ casigameno.com
วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์
วิธีเล่นแบล็คแจ็คออนไลน์ ผู้เล่นจะเข้ามาสู่โต๊ะเดิมพันซึ่งประกอบไปด้วยผู้เล่นอย่างน้อย 2 คนขึ้นไป มีดีลเลอร์ทำหน้าที่จัดการไพ่ทั้งหมด โดยทุกฝั่งต้องให้ความสำคัญกับแต้ม 21 บนโต๊ะในแต่ละรอบ คนไหนได้ 21 ก่อนหรือแจกไพ่หมดแล้วได้ใกล้เคียงที่สุดถือว่าเป็นผู้ชนะ โดยแต้มไพ่ของเกมแบล็คแจ็คออนไลน์สามารถแบ่งออกได้ ดังต่อไปนี้
- ไพ่ที่มีเลข 2 – 10 ให้มีแต้มเป็นไปตามเลขหน้าของไพ่แต่ละใบ
- ไพ่ J Q K ให้มีแต้มเป็น 10
- ไพ่ A ให้มีแต้มเป็น 1 หรือ 11 ขึ้นอยู่ไพ่บนมือของผู้เล่นว่ามีแต้มรวมอยู่ที่เท่าไหร่
เมื่อเกมเริ่มดีลเลอร์จะทำการแจกให้กับผู้เล่นก่อนจนแล้วจึงแจกให้กับตนเอง โดยสามารถเรียกไพ่เพิ่มได้ตามที่ต้องการ ข้อสำคัญ คือ อย่าให้แต้มเกินกว่า 21 เด็ดขาดเพราะจะถือว่าแพ้ในรอบนั้นทันที
กติกาของแบล็คแจ็คออนไลน์
กติกาของแบล็คแจ็คออนไลน์นั้น ผู้เล่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำสั่งภายในเกมให้ขึ้นใจ เพราะผู้เล่นทุกคนมีสิทธิ์ชนะได้ทุกเมื่อ ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกใช้ตอนไหนเพื่อให้ตนเองได้เปรียบนั่นเอง ประกอบไปด้วยข้อกำหนดง่าย ๆ ดังนี้
- Hit คือ ขอจั่วไพ่เพิ่มอีกใบ
- Stand คือ ยืนยันไพ่ในมือและสู้ต่อ
- Double-Down คือ เรียกเดิมพันขึ้นเป็นสองเท่า
- Split คือ หากผู้เล่นได้รับไพ่สองใบที่มีค่าเท่ากัน สามารถแยกไพ่ออกเป็นสองกองได้
- Surrender คือ หมอบหรือยอมแพ้ ซึ่งทำได้เมื่อได้ไพ่ 2 ใบแรกท่านั้น
- Insurance คือ ประกันการสูญเสียเงินเดิมพันที่อาจเกิดขึ้นมา ซึ่งทำได้เมื่อได้ไพ่ 2 ใบแรกท่านั้น
กฎการเดิมพันแพ้ - ชนะ
- หากแต้มรวมของไพ่ฝั่งผู้เล่น ใกล้เคียงกับ 21 มากว่าดีลเลอร์ ผู้เล่นจะชนะทันที
- หากแต้มรวมของไพ่ฝั่งผู้เล่น มากกว่า 21 แต้ม ผู้เล่นแพ้ทันที
- ผู้เล่นและดีลเลอร์ได้แต้มเท่ากันระหว่าง 17-21 ผลจะเสมอกัน ผู้เล่นได้เงินคืน
- ไพ่แบล็คแจ็คจะชนะแต้ม 21 หมายความว่า หากผู้เล่นได้ไพ่รวม 21 แต้ม แต่ดีลเลอร์ได้ 21 เท่ากัน แต่เป็นไพ่แบล็คแจ็ค ดีลเลอร์จะเป็นฝ่ายชนะ
อัตราการจ่ายเงินของเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์
- ชนะเดิมพันมีอัตราการจ่ายเงิน 1:1
- แบล็คแจ็ค มีอัตราการจ่ายเงิน 3:2
- หลักการประกัน หากเจ้ามือมีไพ่ Ace หากต้องการที่จะทำประกันจำเป็นต้องวางเงินเดิมพันเท่าตัว เมื่อเจ้ามือเป็นไพ่แบล็คแจ็คก็จะได้รับเงินรางวัลที่มีอัตราการจ่ายเงิน 2:1 แต่ถ้าไม่ได้ไพ่แบล็คแจ็คก็ต้องเสียเงินประกันทั้งหมดเต็มจำนวน
- เก็บก่อน หากฝ่ายผู้เล่นได้แบล็คแจ็ค และการได้ไพ่ในใบแรกำเป็นเอชจะเลือกเก็บไว้ก่อนไม่ว่าจะได้แต้มรวมเท่าไหร่ก็ตามซึ่งมีจำนวนเท่าใดก็ได้โดยมีอัตราการจ่ายเงิน 1:1
มือใหม่หัดเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์
เกมไพ่แบล็คแจ็คนั้นขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทั้งหมด ซึ่งผู้เล่นจะต้องผ่านเกมให้ออกว่าเราจะเรียกหรือจะหยุดโดยจะต้องใช้เวลาในการติดสินใจพอสมควร เดียวเรามาดูกันว่าต้องเล่นเกมไพ่แบล็คแจ็คยังไงในแต่ละสถานการณ์ ดังต่อไปนี้
- สูตรการวางเดิมพันประกัน หากว่าเจ้ามือได้ไพ่ใบแรกเป็น A นำว่าควรวางเดิมพันประกันทุกครั้ง เพราะว่ามีโอกาสเยอะมากที่จะเป็นแบล็คแจ็ค
- สูตรการวางเดิมพันแบบแยกไพ่ ควรแยกไพ่ทุกครั้ง เมื่อเราได้ 2 ใบแรก เหมือนกัน เช่น K กับ K Q กับ Q J กับ J และ 10 กับ10
- สูตรการเรียกไพ่ อย่าหวังว่าแต้มจะต้อง 21 แต้มทุกครั้ง บางครั้งเพียงแค่ 12 หรือ 13 ก็สามารถชนะได้ ในกรณีที่มี่ 2 ใบแรกรวมกันได้ 11 แต้ม ควรเรียกไพ่เพิ่มทุกครั้ง หากว่ามีแต้ม 17 หรือว่า มากกว่า 17 ไม่ควรเรียกไพ่เพิ่ม
เล่นไพ่แบล็คแจ็คออนไลน์ casigameno.com
- เว็บเดิมพันที่โดดเด่นด้านบริการรวดเร็วทันใจ ฝากถอนเร็วใน 5 นาที
- เว็บเดิมพันฝากถอนเดิมพันไม่มีขั้นต่ำ
สามารถเดิมพันเก - สล็อตได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชม
- โปรโมชั่นและกิจกรรมดีๆมากมาย
- แจ็คพอตแตกง่าย
เล่นง่ายได้เงินเร็ว - เล่นได้จริงสามารถถอนได้จริงไม่มีตุกติก